Edible Flowers Testing ดอกไม้กินได้ เชียงใหม่ การกิน รสชาติ และอาหาร กับกิจกรรมทดลองกินดอกไม้กินได้
By Flowers you can Eat 0914582556
สัมผัสแห่ง รสชาติ กลิ่น และการมองเห็น เราอยากให้ทุกคนได้มาเข้าถึงความพิเศษของดอกไม้กินได้ที่มากกว่าความสวยงาม เพราะนอกจากความพิเศษที่เติมสีสันบนจานอาหารแล้ว การทานดอกไม้กินได้เพื่อให้ได้รสชาติที่แท้จริงก็เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ
เราได้วาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าดอกไม้กินได้ของเราจะเป็นวัตถุดิบหลักในจานอาหารมากกว่าการตกแต่ง ดังที่เราตั้งใจที่จะใช้ชื่อ “Flowers You Can Eat” ซึ่งมีความหมายในตัวเองคือ ดอกไม้ที่คุณกินได้ และสัมผัสถึงรสชาติที่แท้จริง
จากการสะสมประสบการณ์ตั้งแต่เริ่มทำดอกไม้กินได้ตั้งปี 2558 จนถึงปัจจุบัน (2564) ผ่านมาแล้ว 7 ปี เราได้ตั้งปณิธานไว้ตั้งแต่วันแรกที่ได้ทำดอกไม้กินได้คือการได้นำดอกไม้กินได้มาทานเป็นวัตถุดิบหลักในอาหาร และเริ่มเดินทาง สะสมประสบการณ์การทำอาชีพนี้ในระยะเวลาที่แสนยาวนาน จนเกิดเป็นกิจกรรมที่มีชื่อว่า Edible Flowers Testing มาทดลองการกินดอกไม้กินได้
กิจกรรมนี้ได้เริ่มมาตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2563 โดยให้ผู้ที่สนใจในดอกไม้กินได้เข้ามาทดลองทานดอกไม้กินได้ที่ได้จากการสะสมตลอดปี 2563 ในรูปแบบอาหารต่างๆ
โดยในงานที่จัดขึ้นครั้งนี้จะเป็นการเข้ามาทดลองทานอาหารที่ทำจากดอกไม้กินได้ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งจะมี 7 คอร์สในการทดลองทานซึ่งจะมีทั้งเครื่องดื่ม อาหารและขนม
โดยรายการแรก จะเป็น Welcome drink ที่เราเตรียมมาต้องรับผู้มาเยือนด้วย Rosegonia syrup ซึ่งเป็นไซรัปดอกกุหลาบหลากหลายสา่ยพันธ์ที่มีกลิ่นหอมเฉพาะทำให้เกิดกลิ่นละมุนชวนฝัน ซึ่งดอกกุหลาบจะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือช่วยผ่อนคลายและกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่ายกาย นอกจากนี้ไซรัปยังได้ผสมดอกไม้กินได้พิเศษที่มีรสเปรี้ยวซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีต่อระบบการย่อยอาหาร และดีต่อผิวพัน เป็นเมนูเปิดที่ให้ผู้มาเยือนรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าเพื่อที่จะเริ่มการทานเมนูอีก 6 รายการ
ซึ่งไซรัปที่ใช้นี้ได้ใช้เวลาหมักบ่มเป็นระยะเวลา 4 เดือนขึ้นไปเพื่อให้เกิดรสชาติที่กลมกล่อมและมีรสที่ซับซ้อน โดยไม่มีการแต่งสีหรือแต่งสีแต่อย่างใดทุกอย่างล้วนเป็นงานโฮมเมดและเป็นธรรมชาติ และขอบแก้วเราได้ใช้น้ำตาลสูตรพิเศษผสมดอกกุหลาบให้เกิดรสและสีที่น่าสนใจ เมื่อทานไปแล้วจะเกิดความเย็นปลายลิ้นและไม่หวานเกินไป
หลังจากที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก welcom drink แล้ว เราก็เสิร์ฟ Appetizer เป็นขนมเปี๊ยะกลีบดอกกุหลาบ ที่เราได้ใช้เป็นกุหลาบในสวนของเราทั้งหมดทั้งดอกกุหลาบอังกฤษ ดอกกุหลาบหนู และผสมน้ำผึ้งหมักดอกไม้ ในไส้ ซึ่งจะทำให้เปี๊ยะมีรสหวานละมุน ท็อปด้วยดอกบีโกเนียเชื่อมที่จะมีรสเปรี้ยวอ่อนๆตัด กับกลีบดอกไม้ที่ผสมลงไปให้มีการเคี้ยวสัมผัสฟันและลิ้น ทานคู่กับชาพีชรสเปรี้ยวอมหวาน หรือ ชาน้ำผึ้งมะนาวเป็นการเปิดปุ่มรับรสก่อนที่จะไปในเมนูถัดไป ซึ่งเปี๊ยะกุหลาบนี้ได้รับความอนุเคราะห์สูตรจากเชฟพอส เชฟผู้เป็นเป็นผู้แนะนำให้พวกเราได้ปลูกดอกไม้กินได้และเป็น Flowers You Can Eat
เมนูที่ 3 ที่เราจะให้ทุกท่านได้ทดลองทาน ต้องเกริ่นก่อนว่า ในช่วงแรกที่ปลูกดอกไม้กินได้ เราต้องกินดอกไม้ทุกอย่างก่อนที่จะนำออกมาจำหน่าย และเพื่อเรียนรู้กับรสชาติ และวิธีการทาน ซึ่งในช่วง 7 ปีก่อนข้อมูลของดอกไม้กินได้ยังไม่แพร่หลายนัก เราจึงต้องทดลองทานดอกไม้กินได้ที่อยู่รอบตัวไม่ว่าจะเป็นดอกไม้กินได้ไทยริมรั้ว หรือดอกไม้กินได้ที่ได้ข้อมูลของต่างประเทศ เริ่มจากการทานสด จนกระทั่งนำมาทำเป็นอาหารอย่างเช่นกันทำปอเปี๊ยะสด เทมปูระดอกไม้หรือทำเป็นคุ๊กกี้ดอกไม้ เราจึงอยากให้ผู้เข้าร่วมได้เปิดใจและมาสงสัยร่วมกัน เริ่มที่เราจะให้ทุกท่านได้ทานดอกไม้กินได้แบบสด ชิม ดม รับรสในตัวดอกไม้กินได้
แล้วจึงนำเข้าสู่เมนูสลัดดอกไม้ ซึ่งมีดอกไวโอล่า ดอกผีเสื้อ ดอกบีโกเนีย ใบแนสเตอร์เตียมทานคู่สลัดฟินเลย์ไอซ์เบิร์ก โดยดอกไวโอล่าเราได้คัดสีที่ให้ออกรสความหวานที่สุดในโทนสีหลังจากที่ทดลองร่วมกับ คุณบัว จาก Tea Kari กับการทดสอบรสชาติของสีในดอกไม้กินได้จนได้สูตรที่ลงตัวในการคัดเลือกดอกไม้และสีที่ออกรสหวาน และนำมาปรับใช้ในจานจานสลัดนี้
ซึ่งนอกจากดอกไม้ที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ก็มี salad dressing ที่เป็นพระเอกของเมนูนี้เพราะเราได้ทำจากน้ำที่ดองดอกเก๊กฮวย+ดอกเบญมาส ตีเป็นน้ำสลัดใสผสมน้ำมันมะกอกและเครื่องเทศให้เกิดรสที่เข้มข้นของดอกเก๊กฮวยและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ทานคู่กับสลัดดอกไม้เป็นการทานดอกไม้ที่คุณไม่อาจจะเขี่ยออกได้เด็ดขาด
เข้าสู่ main course ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้เข้าร่วมจะต้องร่วมลุ้นว่ารอบนี้คุณจะได้เมนคอร์สเป็นอาหารแบบใด แต่ทุกเมนูล้วนมีดอกไม้กินได้เป็นวัตถุดิบหลัก ดังนั้นเราจะขอยกตัวอย่างของเมนคอร์สที่ผ่านมา
ปลาอินทรีย์ ราดด้วยซอสดอกบีโกเนีย เมนูนี้เริ่มจากที่ในปี 63 เราได้จัดกิจกรรม 4 week 4 chef โดยการให้เชฟในแต่ละสาขามาทำอาหารจากดอกไม้กินได้ และในสัปดาห์ที่ 4 เชฟพีท แห่งร้าน Pinch of salt ได้มารังสรรค์เมนูพิเศษนี้โดยนำปลาอินทรีย์มาราดด้วยซอสของดอกบีโกเนียที่ให้รสเปรี้ยว ตัดกับรสฉุนของเครื่องเทศทำให้เกิดเมนูที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และดึงเอาคุณสมบัติของดอกไม้ชนิดนี้ออกมาได้อย่างน่าสนใจ เราจึงเลือกเมนูเป็นหนึ่งในเมนคอร์สที่น่าสนใจและมีรสชาติที่ยอดเยี่ยม
เนื้อย่างกับเก๊กฮวยเหลือง สำหรับผู้ไม่ทานเนื้อจะเสริฟเป็นหมูย่างกับดอกเก๊กฮวยขาว หนึ่งการเดินทางของเราในปี 2563 การไปที่ บ้านอมลอง อำเภอสะเมิง จ.เชียงใหม่ เพื่อไปเก็บดอกเก๊กฮวยจากแหล่งปลูกเริ่มแรกและดีที่สุด ทั้งในด้านของอากาศ ภูมิประเทศ และน้ำที่ใช้หล่อเลี้ยงดอกเก๊กฮวยในสถานที่แห่งนี้ ในพื้นที่แต่ละพื้นที่มีรสชาติและกลิ่นของสถานที่นั้นๆ รวมทั้งเก๊กฮวยของที่นี่ที่ทำให้เราต้องออกเดินทางไปคัดดอกเก๊กฮวยเพื่อนำมาดอง
ซึ่งดอกที่จะนำมาดองนั้นเราต้องคัดดอกที่มีลักษณะกึ่งบานกึ่งตูม เกสรไม่แตก กลีบไม่บานจนเกินไป ต้องได้ขนาดที่เท่ากันแบบนี้ทุกดอก เราจึงต้องคัดด้วยตัวเองอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้ดอกไม้ที่เหมาะสมกับการนำมาทำการดอง ช่วงเดือนที่มาเก็บก็มีผลต่อกลิ่นและรสชาติ ซึ่งเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงเดือนที่ดอกเก๊กฮวยจะมีกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีความหอมละมุนมากกว่าช่วงเดือนอื่นๆ (**จากการสังเกตการณ์ในรอบระยะเวลาหลายปีที่ขึ้นมาเก็บดอกเก๊กฮวยในทุกๆปี*)
ซึ่งในการดองครั้งนี้เราได้ความช่วยเหลือจาก พี่หนึ่งแห่งร้าน Bucoliq ที่มีความชำนาญในการหมักดอง พี่หนึ่งเป็นหนึ่งในเชฟที่มาร่วมกิจกรรมกับทางเราใน 4 สัปดาห์ 4 เชฟกับการทำอาหารจากดอกไม้กินได้
พี่หนึ่งเป็นเชฟสายวัตถุดิบ และเป็นแรงบันดาลใจให้เรานำดอกไม้กินได้มาทำเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร และเราได้ร่วมกันทดสอบดอกเก๊กฮวยที่ผ่านการดองทานคู่กับเนื้อเพื่อดึงรสที่อยู่ในตัวเนื้อออกมาได้อย่างชัดเจน และเก๊กฮวยก็มีคุณสมบัติสร้างความสดชื่นและแก้ร้อนในได้อีกด้วย
สำหรับผู้ที่ไม่สามารถทานเนื้อ เราได้เลือกหมูย่างมาทานคู่กับเก๊กฮวยขาว
เก๊กฮวยขาวกับหอยเปาฮื้อ เป็นเมนูอีกเมนูที่ได้รับการทดสอบทานคู่กันแล้วเกิดรสชาติใหม่ที่น่าสนใจ สร้างกลิ่นและรสที่สนับสนุนให้หอยเปาฮื้อมีรสชาติที่หวานละมุนแต่ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ เก๊กฮวยขาวที่มีกลิ่นและรสที่อ่อนละมุนกว่าเก๊กฮวยเหลืองจะช่วยส่งเสริมให้ตัวหอยมีความโดดเด่นและยังเข้ากันได้อย่างลงตัว (เมนูนี้จะถูกนำมาลงเมนคอร์สในอนาคต)
กุ้งแชบ๊วยอบกับซอสเปรี้ยวหวานดอกดาหลา ที่จะให้รสเปรี้ยวหวานมีกลิ่นตะไคร้นิดๆจากดอกดาหลา ทานคู่กับเนื้อกุ้งแน่นๆ ตัดกับรสของดอกเปรี้ยวหวานและเครื่องเทศทำให้เกิดรสชาติที่น่าสนใจ (เมนูนี้จะถูกนำมาลงเมนคอร์สในอนาคต)
หลังจากที่ทาน Main course ไปแล้ว เราก็ล้างปากกันด้วย ไอศครีมรสธรรมชาติที่ผสมด้วยน้ำผึ้งดอกไม้และดอกบีโกเนียหรือดอกชบาเมเปิ้ล ซึ่งจะให้รสเปรี้ยว หวาน มัน ที่ทำให้เคลียร์ช่องปากของเราสดชื่นขึ้นหลังจากที่อาหารคาว
ในส่วนของของหวาน เราได้จัดเป็นทาร์ตขนมปัง+โรกุซ่าฮันนี่ โดยขนมปังเราเลือกใช้เป็นขนมปังที่ทำจากยีสต์ธรรมชาติจะให้ความหวาน อ่อนๆจากการหมักของยีสต์ที่มาจากลูกเกตและแอปเปิ้ล นำมาอบกับครีมไข่ ทานคู่กับโรกุซ่าฮันนี่ ที่ใช้เวลาหมัก 4–5 เดือน จะให้ความหอมละมุนทะลุราวกับอยู่ในสวนดอกไม้ และดอกกุหลาบป่าที่เราปลูกและนำใช้นี้จะต้องเป็นดอกที่ออกตามธรรมชาติโดยไม่ใช้วิธีการเร่งดอกด้วยวิธีใดๆ ใช้เวลาในเก็บดอกไปเรื่อยๆเพื่อให้ได้ดอกกุหลาบที่มีกลิ่นและรสจากธรรมชาติหมักกับน้ำผึ้ง ซึ่ง1 ปีจะทำได้แค่ 6 กระปุกเท่านั้น
ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่ม signature ของร้าน Flowers You Can Eat ด้วยชาดอกไวโอล่าซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีต่อการไหลเวียนของโลหิต และมีรสหวานอ่อนๆ
โดยการในปี 2563 Flowers You Can Eat ได้ทดลองร่วมกันคุณบัวจาก Tea kari ในการทดลองรสชาติและการจัดการกับสีของดอกไวโอล่าเพื่อให้ได้รสชาติของชา ดอกไม้ที่ดีที่สุด
การทานดอกไวโอล่าแบบชาเราจะทานแบบ 4 สเต็ป ซึ่งเริ่มจากการทานแบบไม่ปรุงรส ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งจะมีหวานปลายอ่อนๆ แล้วเริ่มไล่สเต็ปที่ 2 ด้วยการเติมดอกคริสตัลเพื่อเพิ่มรสที่หวานเล็กน้อย สเต็ปที่ 3 กับการทานดอกไม้กับรสเปรี้ยวตัดหวานสำหรับผู้ที่ชอบรสชาติที่หลากหลาย และสเต็ปที่ 4 สเต็ปสุดท้าย ทานคู่กับโรกุซ่าฮันนี่สร้างรสหวานธรรมชาติ หอมละมุนแบบทะลุสวนดอกไม้ เป็นการปิดการ testing เป็นระยะเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง กับการเดินทางและทดลองทานดอกไม้กินได้ ร่วมการสัมผัสและเรียนรู้ในรสชาติของดอกไม้กินได้อย่างแท้จริง
สำหรับกิจกรรม Edible Flowers Testing นี้จะมีไปจนกว่าวัตถุดิบดอกไม้กินได้ที่ทำไว้ปี 2563 หมด และจะปิดกิจกรรมสำปรับปี 2564 แล้วเริ่มสะสมวัตถุดิบใหม่ทั้งหมด รวมถึงการเดินทางเพื่อไปค้นหาดอกไม้กินได้ชนิดอื่นๆนำมาทำเป็นวัตถุดิบหลัก เพื่อจัดกิจกรรม Edible Flowers Testing ในปีหน้า ซึ่งจะได้วัตถุดิบใหม่และมีเมนูที่หลากหลายมากขึ้น
กิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นการสร้างประสบการณ์และเป็นความท้าทายของเราเป็นอย่างมาก เพื่อปลดล็อคดอกไม้กินได้ให้ขึ้นมาสู่การเป็นวัตถุดิบบนจานอาหาร และจากนี้ไปเราจะต้องฝึกฝนและพัฒนาตนเองเพื่อเป็นผู้คัดสรรค์วัตถุดิบจากดอกไม้กินได้
ติดตามเรื่องราวของพวกเราได้ที่ Flowers You Can Eat หรือ อินตราแกรม Flowers_you_can_eat
#ดอกไม้กินได้ #ดอกไม้กินได้เชียงใหม่ #edibleFlowers #FlowersYouCanEat
#ดอกไม้กินได้ซื้อที่ไหน #ดอกไม้กินได้มีอะไรบ้าง #ดอกไม้กินได้แต่งจาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น