วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ทาร์ตไส้ดอกเก๊กฮวย By Flowers You Can Eat

ทาร์ตไส้ดอกเก๊กฮวย By Flowers You Can Eat




ในช่วงฤดูหนาวที่จะถึงนี้ ระหว่างเดือน พฤศจิกายน ถึง ธันวาคม ดอกเก๊กฮวยจะชูช่อดอกผลิบานส่งกลิ่นหอมเต็มทุ่ง เป็นดอกไม้แห่งฤดูกาลที่จะมีเพียงปีละหนึ่งครั้ง และเรามักจะคุ้นเคยกับการนำดอกเก๊กฮวยมาทำน้ำดอกเก๊กฮวยไว้ดื่มแก้กระหายและยังมีคุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายอีกด้วย และวันนี้ Flowers You Can Eat ได้นำดอกเก๊กฮวยนำทำอาหารในรูปแบบของขนม ซึ่งก็คือ นั่นก็คือ ทาร์ตดอกเก๊กฮวยนั่นเอง




ส่วนผสมที่ใช้มีดังนี้

ทาร์ตสำเร็จรูป

ถั่วเขียว

เก๊กฮวยแห้ง 50 กรัม


ในส่วนของส่วนผสมของฟิลลิ่ง

น้ำเปล่า 1500 กรัม

น้ำตาล 250 กรัม

แป้งกวนไส้ 100 กรัม


ในส่วนผสมของไส้กวน

น้ำตาล 250 กรัม


วิธีทำมีดังนี้

1. นำทาร์ตสำเร็จรูปใส่ถั่วเขียวไว้ด้านในเพื่อไม่ให้แป้งนูนระหว่างการอบ โดยอบที่อุณหภูมิ 200 องศา เป็นเวลา 20 นาที เมื่ออบเสร็จเทถั่วออกจากแป้งทาร์ต

2. นำดอกเก๊กฮวยแห้ง 50 กรัม แช่น้ำทำความสะอาด แล้วนำดอกเก๊กฮวยมาคัดแยกก้านและดอกตูมออก เหลือเพียงดอกบาน

3.ต้มน้ำเปล่า 1500 กรัม จนน้ำเดือด แล้วนำดอกเก๊กฮวยที่คัดแล้วนำมาต้ม

4. แยกน้ำ และดอกเก๊กฮวยออกจากกัน โดยน้ำจะนำไปทำฟิลลิ่ง และตัวดอกเก๊กฮวยนำไปเคี่ยว

5. ในส่วนของฟิลลิ่ง นำน้ำเก๊กฮวย ผสมด้วยน้ำตาล 250 กรัม คนจนน้ำตาลละลาย

6. นำแป้งกวนไส้ใส่ถ้วยแยก 100 กรัม แล้วนำน้ำเก๊กฮวยมาผสมบางส่วน คนจนแป้งกวนไส้ละลาย

7.ตั้งไฟ แล้วนำแป้งกวนไส้ที่ละลายแล้วนำลงหม้อต้มน้ำเก๊กฮวยคนจนน้ำเก๊กฮวยหนืดและข้น

8. เด็ดกลีบดอกเก๊กฮวยสด แล้วนำมาผสมกับฟิลลิ่ง คนจนเข้ากันแล้วนำขึ้นพัก

9. ในส่วนของไส้กวน นำเนื้อดอกเก๊กฮวยที่แยกไว้ ผสมกับน้ำตาลทราย 250 กรัม คลุกเคล้าให้เข้ากัน

10 ตั้งไฟแล้วกวนให้งวด แล้วนำขึ้นพัก

11. นำฐานแป้งฐานที่เตรียมไว้ ใส่ด้วยไส้ดอกเก๊กฮวย แล้วจึงนำฟิลลิ่งเทด้านบนทับไส้ เป็นอันเสร็จ




วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

แต่งจานบราวนี่ ด้วยดอกไม้กินได้ และ Color Wheel By Flowers You Can Eat 0914582556

 

แต่งจานบราวนี่ ด้วยดอกไม้กินได้ และ Color Wheel

By Flowers You Can Eat 0914582556

กลับมาอีกแล้วน้าคะ กับพวกเรา Flowers You Can Eat กับการนำดอกไม้กินได้มาแต่งจานอาหาร วันนี้เราได้บราวนี่ครีมไวท์ช็อกมาเป็นตัวต้นแบบสำหรับการตกแต่ง

เราเลือกจานพื้นขาวเพื่อที่จะทำการตกแต่งซึ่งเป็นสีเรียบที่ง่ายต่อการแต่งจานค่ะ แล้วสำหรับดอกไม้กินได้ที่จะนำมาตกแต่งนั้น เราได้เลือกดอกไม้กินได้แปรรูปทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย ดอกไม้คริสตัล ดอกไม้กลีบแห้ง ผงดอกกุหลาบ และดอกบีโกเนียเชื่อม

ซึ่งอันดับแรกสำหรับการแต่งจานหลังจากที่เลือกโทนสี และรูปร่างของจานได้แล้ว ก็มีดูที่ต้นแบบของที่เราจะนำมาตกแต่ง นั่นก็คือบราวนี่ครีมไวท์ช็อค ซึ่งมีโทนสี ขาว ดำเป็นสีพื้นฐาน ทีนี้ก็ให้มาดูโทนสีที่จะจัดโดยใช้คัลเลอร์วิลมาเป็นตัวช่วยที่จะเลือกสีเข้ามาเสริมให้อาหารของเราดูน่ากิน

โดยหมุนวงล้อสีไปที่สีหลักนั่นคือสีน้ำตาลเข้ม เป็นการผสมของสีแดง+shade ซึ่งจะทำให้สีน้ำตาลเข้ม ซึ่งเปนสีที่ใกล้เคียงกับบราวนี่ในต้นแบบ จากนั้นก็มาเลือกจากจับคู่สีโดยเราได้เลือกเป็นคู่สีแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งสีที่จะตรงกับ

สีน้ำตาล(แดง+shade) สีสีเหลือง สีเขียว และสีม่วง

ดังนั้นเราจะจัดสัดส่วนโทนสีดังต่อไปนี้

สีหลัก (สีบราวนี่) 50%

สีแดง จากดอกบีโกเนียเชื่อม + กลีบดอกกุหลาบ+ผงกุหลาบ 10%

สีเหลือง จากกลีบดอกไวโอล่าสีเหลือง 10%

สีม่วง ดอกไม้คริสตัลสีม่วง 25%

สีเขียว ใบเลม่อนไทม์+ใบลาเวนเดอร์ 5%

ซึ่งการจัดการสี องค์ประกอบ และสัดส่วนจะช่วยทำให้สีในจานอาหารถูกจัดสรรได้อย่างลงตัว รวมถึงการคำนึงถึงการจัดจานให้ดูดีในสายตาของผู้รับประทาน จะให้ความสำคัญในเรื่องของการจัดวางอาหาร+ภาชนะ

จะเห็นได้ว่าเราจะวางตัวของบราวนี่ให้มีความเหลื่อมกันเล็กน้อยเพื่อให้มีความน่าสนใจและไม่ตรงทื่อเกินไป และนำดอกไม้กลีบแห้งและผงแห้งมาโรยรอบๆโดยให้มีสเปซไม่ติดกันเกินไป

การเพิ่มความฉ่ำบนตัวขนมจะเพิ่มความน่าทานมากขึ้นโดยเราใช้ดอกบีโกเนียเชื่อมเป็นตัวตัดสี ตัดรส ซึ่งบีโกเนียจะมีรสเปรี้ยวเมื่อนำไปเชื่อมจะได้รสเปรี้ยวอมหวาน ทานคู่กับบราวนี่จะทำให้มีรสชาติที่ไม่โดดไปจากกัน

อย่างที่เราเน้นย้ำคือการจัดอาหารให้ส่งเสริมกับภาพลักษณ์ของอาหารให้ดูน่าสนใจและถูกแชร์ไปได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะถ่ายด้วยกล้องมือชีพ หรือจากกล้องมือถือธรรมดา ก็ได้ภาพของอาหารที่ดูดีในทุกแบบทุกมุม จานทรงกลมกับอาหารจะเป็นการจัดการที่ง่ายที่สุด และยังแต่งลูกเล่นได้อีกด้วย ซึ่งเรามักจะเป็นการจัดจานในรูปแบบตัว C หรือการจัดจานเป็น Line เส้นตรง

และมุมถ่ายรูปยอดฮิตในจานอาหารมักจะอยู่ที่มุมบน มุมข้าง หรือมุม 45% ซึ่งหากมีการจัดวางที่เหมาะสมก็จะทำให้การถ่ายรูปอาหารออกมาดูดี ตรงปก และการแต่งอาหารก็จะส่งเสริมให้อาหารเราน่าทานและถูกแชร์ไปอย่างง่ายดาย

ลองฝึกกันนะคะ เริ่มจากการใช้ color wheel ที่จะทำให้การจัดจานอาหารเป็นเรื่องง่าย รวมถึงการใช้สีจากดอกไม้กินได้จะทำให้อาหารเกิดความโดดเด่นเตะตาต้องใจค่ะ

ติดตามพวกเรา Flowers You Can Eat ได้ที่เพจ Flowers You Can Eat เพื่อไม่ให้พลาดต่อสาระดีๆน้าคะ


วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2564

แต่งจานสวย ด้วยดอกไม้กินได้ ง่ายๆ ไม่เกิน 5 นาที By Flowers You Can Eat 0914582556

 

แต่งจานสวย ด้วยดอกไม้กินได้ ง่ายๆ ไม่เกิน 5 นาที  

By Flowers You Can Eat 0914582556

กลับมาแล้วค่ะ กับพวกเรา Flowers You Can Eat กับเคล็ดลับการนำดอกไม้กินได้มาแต่งจานอาหารแบบง่ายๆ ไม่เกิน 5 นาที

โดยที่เราจะใช้การจับคู่สีเป็นตัวช่วยเพื่อทำให้การเลือกสีในการจัดการกับอาหารเป็นไปได้ง่าย ผนวกกับการจัดอาหารให้เหมาะกับการถ่ายรูป ไม่ว่าจะมุมไหนก็สวย มาลองทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1 การเลือกสีหลักของอาหาร วันนี้เราจะทำการตกแต่งขนมไข่ โดยเทียบสีของขนมไข่จะอยู่ที่สีเหลือง-ส้ม (Yellow-Orange) และการจัดวางของขนมเราจะจัดวางโดยการวางซ้อนกันให้เกิดมิติ และเกิดรูปทรงเพื่อให้การจัดจานมีรูปทรงเมื่อถ่ายรูปออกมาทำให้เกิดความน่าสนใจและถ่ายรูปได้ง่ายมากขึ้น

2. เมื่อได้สีหลักแล้ว เราก็มีเลือกแพทเทิร์นจับคู่สี โดยเราจะเลือกใช้ในรูปแบบของสี่เหลี่ยมจัตุรัจ ซึ่งสีหลักคือสีเหลือง-ส้ม จับคู่กับสี เขียว สีน้ำเงิน-ม่วง สีแดง

3 ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกวัตถุดิบให้อยู่ในสีที่กำหนด โดยที่เราจะแบ่งเปอร์เซ็นต์สีเป็น

40% เป็นตัวขนมไข่ (สีเหลือง-ส้ม)

20% เป็นดอกไม้เชื่อมสีแดง (ทานคู่ให้เสริมรสชาติ)

20 % เป็นดอกกุหลาบแห้ง และผงดอกกุหลาบสีแดง

15% ดอกไวโอล่าสีน้ำเงินม่วง

5% ใบเลมอนไทม์สีเขียว

จากนั้นเริ่มการจัดตามอัตราส่วนซึ่งจะทำให้เราจัดจานได้รวดเร็วและยังได้แพทเทิร์นสีที่ลงตัว

4.พร้อมเสิร์ฟและพร้อมถ่ายรูป 

5 มาพิสูจน์กันว่า เมื่อลูกค้าของคุณจะถ่ายรูปอาหารของคุณจะปังแค่ไหน ไม่ว่าจะมุม Top มุม 45% มุมแคบ มุมต่ำ มุมกว้าง หรือมุมไหนๆ อาหารก็จะดูดี เช็คอินแล้วตรงปก

มุมข้าง จะเห็นว่าก็ยังสวยงาม และยังเห็นความมีมิติของอาหารหลักเพราะมีการวางให้เป็นรูปทรงดีกว่าวางเป็นแนวนอนไม่มีมิติ

หรือจะเอาส้อมลองจิ้มถ่ายรูป ก็ยังดูดี

มุม TOP หรือมุมยอดฮิต มุมเสยที่หลายๆคนไปร้านอาหารก็ต้องถ่ายมุมนี้

มุม TOP แบบเอียงก็เอาอยู่ เอาส้อมวางบนจานเป็นพร็อพ

ไหนๆก็มีดอกไม้เชื่อมให้ทานคู่กับขนมแล้วแล้วก็ลองเอามาถ่ายคู่กันสักหน่อย

มุม 45 องศา แบบนั่งเก้าอี้ถ่ายมาตรงๆ

แบบซูมกันให้ชัด ก็ไม่หลุดแถมเก็บรายละเอียดของอาหารและดอกไม้ที่มาตกแต่งได้ดี

จะเอามือเข้ากล้อง อาหารก็ยังดูดี

เอาส้อมมาเข้าฉาก ทำเหมือนกำลังจะกิน

ถ่ายกับวิวริมหน้าต่างอาหารก็ยังสวยและโดดเด่น

หลายๆท่านอาจเคยใช้เวลากับการถ่ายรูปจานอาหารมากกว่า 10 รูป เพื่อคัดรูปที่ดีที่สุด ซึ่งการอำนวนฃยความสะดวกให้ลูกค้าถ่ายรูปได้ทุกมุมในจานอาหารจะเป็นการสร้างความประทับใจอย่างหนึ่ง

จะถ่ายแบบกดมุมต่ำลงขนานกับจานหรือมุมข้างๆก็ยังสวย

ซูมแบบมุมต่ำ เห็นวัตถุดิบและอาหารได้ชัดเจนอาหารก็ยังมีมิติ

เห็นไหมคะว่าการแต่งจานที่นอกจากจะจัดให้คู่สีครบแล้ว ในปัจจุบันสิ่งที่ต้องคำนึงคืออาหารจะต้องช่วยส่งเสริมให้ลูกค้าของเราถ่ายรูปออกมาดูดี ไม่ว่าจะมุมไหน กล้องแบบไหน หรือจะตั้งใจถ่ายหรือไม่ตั้งใจถ่าย อาหารก็ออกมาดูดี

และที่สำคัญกว่าอื่นใดคือความอร่อย เหมือนที่เรานำขนมไข่มาทานคู่กับดอกไม้เชื่อมที่มีรสเปรี้ยวตัดกับขนมที่มีรสหวานแห้ง ทำให้เกิดความชุ่มชื้น ทานแล้วเข้ากันได้อย่างลงตัว

ลองแต่งจานด้วยดอกไม้กินได้นะคะ เมื่อฝึกฝีมือบ่อยๆ ก็จะทำเวลาได้น้อยลง และสวยงามจับใจจนต้องแชร์ ติดตามเรื่องราวของเรา Flowers You Can Eat ในบทความต่อไป


วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ดอกไม้กินได้ กับทฤษฎีการจับคู่สี ใน color wheel by Flowers You Can Eat 0914582556

 

ดอกไม้กินได้ กับทฤษฎีการจับคู่สี ใน color wheel
by Flowers You Can Eat 0914582556

สี เป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นในดอกไม้ สีสันเพิ่มความน่าสนใจในอาหาร หรือเติมแต่งสีที่ขาดให้ครบสมบูรณ์แบบ และทำให้อาหารดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ท่านลองนึกถึงส้มตำ ถ้าขาดสีแดงไปจะเป็นอย่างไรบ้างคะ ดูจืดและไม่น่ากินใช่ไหม เพราะสีมีอิทธิพลต่อความรู้สึก ถ้าหากสีขาดไปแล้วอาหารของเราก็จะดูไม่โดดเด่น

วันนี้ Flowers You Can Eat จะมาสอนการจับคู่สี เพื่อทำให้อาหารของเราดูน่ารับประทาน และสามารถเพิ่มสีของดอกไม้เข้าไปช่วยเติมแต่งสิ่งที่ขาดได้ค่ะ

โดยจะมีทฤษฎีการจับคู่สีแบบพื้นฐานดังต่อไปนี้

  1. สีข้างเคียง (Analogous Colours) เป็นการเลือกใช้สีที่อยู่ข้างๆและเป็นสีโทนโทนเดียวกันอย่างลงตัว

ตัวอย่าง น้ำบลูฮาวายสีฟ้าเข้ม สีหลักคือสีฟ้าเข้ม ถ้าเราจะแต่งด้วยคู่สีแบบสีข้างเคียง เราก็จะใช้ดอกฟอร์เก็ตมีน็อตสีฟ้า แล้วแซมด้วยใบไม้สีเขียว ก็จะทำให้เครื่องดื่มบลูฮาวายนี้มีสีที่น่าสนใจมากขึ้นจากการเติมสีเข้าไปตามหลักสีข้างเคียง

2. สีคู่ตรงข้าม (Complementary Colours) เป็นการใช้สีตรงกันข้ามกับสีหลัก

ตัวอย่าง เค้กสตอเบอรี่สีแดง สีหลักคือสีแดงในเค้ก เราอยากเติมสีแบบคู่สีตรงกันข้ามก็เพิ่มใบไม้สีเขียวลงไป หรือผลไม้สีเขียวก็ทำให้อาหารดูโดดเด่นขึ้นมามากๆ

3. สีแบบสมดุลรูปสามเหลี่ยม (Triadic Colours) การใช้งานคู่สีนี้ เราต้องเลือกให้สีใดสีหนึ่งโดดเด่นมากที่สุด แล้วลดสัดส่วนของสีอื่นๆตามลงมา

เช่น พานาค็อตต้ามะม่วงสุก สีหลักที่โดดเด่นคือสีเหลือง นำดอกกุหลาบหนูสีแดงวางไว้ตรงกลาง โรยด้วยดอกฟอร์เก็ตมีน็อตสีฟ้าดอกเล็กไว้ข้างๆเพียงเล็กน้อย

4. สีใกล้เคียงกับสีคู่ตรงข้าม (Split-Complementary Colours) หรือที่เรียกสามเหลี่ยมหน้าแคบ

ตัวอย่าง เยลลี่สตอเบอรี่ สีหลักคือสีแดง วางดอกไวโอล่าสีฟ้าลงไปตรงกลางเสียบใบไม้สีเขียวลงไปหรือผลไม้สีเขียวก็จะได้คู่สีที่ครบ

5. คู่สีแบบสีเหลี่ยมจัตตุรัจ (square) เป็นการจัดคู่สีที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และมีสีที่หลากหลายซึ่งเหมาะทั้งอาหาร และของหวาน

ตัวอย่าง กุ้งในซอสเลม่อน สีหลักในจานเป็นกุ้งตัวโตสีส้ม ที่มีเปอร์เซ็น 40% ซอสที่หยดอยู่ด้านข้างสีเหลือง 30% และเปอร์เซ็น30 % ที่เหลือ จะเป็นดอกไม้หรือวัตถุดิบอื่นๆที่เป็นสีน้ำเงินหรือฟ้า โดยอาจจะใส่ดอกฟอร์เก็ตมีน็อตเล็กๆบนซอส 10% และอีก 20% เป็นดอกไวโอล่าสีน้ำเงินที่วางอยู่ข้างข้าวๆตัวกุ้ง

6. คู่สีแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า rectagular

ตัวอย่าง สลัดผัก สีหลักคือ สีเขียว มีเปอร์เซ็นสี 50 % โรยมะเขือเทศสีเหลืองลงไป 10% ขูดกะหล่ำม่วงไป 20% ตกแต่งด้วยกลีบดอกอัญชัญสีน้ำเงินไปอีก 20% ก็ทำให้สลัดดูโดดเด่นตามคู่สี

นี่เป็นตัวอย่างของการนำทฤษฎีสีมาช่วยในการจัดตกแต่งอาหาร เพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเลือกใช้สีวัตถุดิบมาดูตัวอย่างการตกแต่งอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวานตามคู่สี ดังตัวอย่างดังนี้

Moon Milk สีหลักคือสีชมพู(แดงอ่อน) เราจึงจัดโทนสีแบบสีข้างเคียงโดยเลือกใช้ดอกกุหลาบสีชมพูมาโรยไว้บนฟองนม

สโคน จัดแบบ สามเหลี่ยมหน้าแคบ จะเห็นได้ว่ามีสีหลักคือสีส้มอ่อน โดยในสามเหลี่ยมหน้าแคบจะตรงกับมีส้มผสมเหลือง(ตัวสโคน) ม่วงผสมฟ้า และฟ้า โดยนำดอกไวโอล่าแห้งสีม่วงนำมาวางบนตัวสโคนเพื่อสร้างการดึงดูดสายตา ซึ่งเราจะใส่เพียงเล็กน้อยนะคะเพื่อให้เห็นตัวขนมที่เป็นสโคน ส่วนสีฟ้าเราใช้เป็นกลีบดอกโรยไปด้านล่างเพื่อสร้างอารมณ์ที่อ่อนโยนราวกับกลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่นมาบนตะกร้า

ส่วนไอศครีมจะเห็นว่าสีหลักมีแดงอ่อนและสีเหลือง เราได้เลือกการจัดสีแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งจะตกไปที่สีเขียวผสมฟ้า และสีม่วงผสมฟ้า

การจัดเค้กที่มีโทนพื้นอย่างสีขาว ซึ่งเราได้เลือกการจับคู่สีแบบสีเหลียมผืนพ้า โดยให้สีหลักคือสีแดง และคู่สีกับ เหลือง เขียว ม่วง

วัตถุดิบที่เลือกใช้มาตกแต่ง

ไวโอล่าแห้ง สีม่วงและสีเหลือง

กลีบดอกกุหลาบสีแดง

น้ำตาลผสมสีดอกไวโอล่าเหลือง

ใบเลมอนไทม์แบบทับแห้ง

เป็นการใช้ทฤษฎีคู่สีให้เหมาะสำหรับการตกแต่งอาหารโดยใช้สีของดอกไม้กินได้มาช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาด หากท่านยังไม่กระจ่าง เรามีคลิปวีดีโอสาธิตการตกแต่งอาหารด้วยดอกไม้กินได้โดยใช้ทฤษฎีคู่สี แบบวงล้อ color wheel ในคลิปดังต่อไปนี้

แต่งเค้กอย่างไรให้เหมือนไปคาเฟ่ โดยใช้ดอกไม้กินได้ จับคู่สีในcolor wheel

ดอกไม้กินได้กับสีเพื่อการตกแต่ง จับคู่สีใน color wheel

เป็นอย่างไรบ้างคะ ลองจัดคู่สีกับอาหารของคุณ ถ้าลองทำแล้วแชร์กันได้ที่ Flowers You Can Eat